วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

#รีวิวของมันต้องมี แผ่นมาส์กหน้า เส้นใยคริสตัล "mesoestetic post peel crystal fiber mask"



      สวัสดีค่าวันนี้หมวยมีเรื่องเม้าท์ ! หลังจากปลายเดือนที่ผ่านมามีงานถาโถมเข้ามาหาอิฉันเป็นอย่างมาก ทั้งงาน indoor - outdoor เฮ้อ! เธอก็รู้นี่ แดดประเทศไทยยอมใครซะที่ไหน แถมผิวยิ่งแพ้ง่ายอยู่ หน้าก็ไหม้ ผิวก็แห้ง โอ้ย...โคตรหน้าโทรมอ่ะ ซึ่งวิธีที่เราดูแลและบำรุงหนังหน้าตัวเองได้ง่ายที่สุดเลยก็คือ การซื้อแผ่นมาร์กหน้ามาโปะ นอนดู Netflix สวย ๆ เพราะแค่ไม่กี่นาทีหน้าก็ใสบริ๊งค์ขึ้นแล้วจ้า แต่หมวยก็ลองมาเยอะเจ็บมาเยอะอยู่นะ ทั้งแพ้ทั้งคันก็เคยเจอมาละ แต่ล่าสุดหมวยได้ลองแผ่นมาร์กหน้าของแบรนด์ mesoestetic จากประเทศสเปน ซึ่งแบรนด์นี้เค้าโด่งดังมากเรื่องเวชสำอางอยู่แล้ว วงการแพทย์และคลินิกความงามใช้ของเค้าเยอะมาก

        โดยคุณสมบัติของแผ่นมาร์กหน้า mesoestetic post peel crystal fiber mask รุ่นนี้ เค้าบอกว่าเป็นรุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการต่ออายุเซลล์ปรับโครงสร้างชั้นไขมัน เพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยจ้า แผ่นมาร์กนี้นอกจากจะเหมาะกับการบำรุงผิว ยังช่วยปลอมประโลมผิวที่ผ่านการฉีด การเลเซอร์ ได้อย่างดีเลยแหละ


        ใน 1 กล่อง จะบรรจุแผ่นมาร์ก 5 ชิ้น สิ่งแรกที่สะดุดตาหมวยเลยก็คือ ซองที่บรรจุแผ่นมาร์ก มันเรียบง่ายดีอ่ะ ดูเป็นเวชสำอางในวงการแพทย์จริง ๆ ตอนแกะซองออกมา เฮ้ยแก! มันชุ่มฉ่ำอุ้มน้ำดีมาก ๆเลยอ่ะ (คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมาก ๆ อิอิ) ซึ่งส่วนผสมหลักที่อยู่ในนี้ก็คือ กรดไฮยาลูรอนิค ช่วยให้ความชุ่มชื้นและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว, ผง Platinum ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย, สาหร่ายสกัด ช่วยผ่อนคลายและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว  ถ้าใครชอบชุ่ม ๆ mesoestetic post peel crystal fiber mask หมวยให้ผ่านค่ะ


มาถึงแผ่นมาร์กกันบ้างหมวยรู้สึก WOW มากเลยนะ เพราะแผ่นมาร์กมันนิ่มมากกกเหมือนเจลลี่เลย ผิวสัมผัสมันต่างจากมาร์กหน้าทั่ว ๆ ไปที่เคยลองมาเลยนะ แต่ในความรู้สึกหมวยมันก็แอบคล้ายแผ่นแป้งแหนมเนืองอยู่เหมือนกันนะ 5555


 mesoestetic post peel crystal fiber mask มันเป็นเส้นใยคริสตัลที่ใช้เส้นใยนาโน 3 มิติ ทำมาจากธรรมชาติล้วน ๆ มีความปลอดภัยสูงมาก ใครที่มีผิวแพ้ง่ายเหมือนหมวยไม่ต้องกลัวเพราะหมวยลองมาแล้ว ไม่คันไม่แพ้ไม่มีรอยแดงเลย ที่สำคัญไม่มีกลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ให้กวนใจเลยคร่า


มาถึงเวลาแปะแผ่นมาร์กหน้ากันแล้ว เล็งตำแหน่งให้เป๊ะและโปะเลยจ้า ขนาดแผ่นมาร์กหน้ากำลังพอดีรับกับใบหน้าดีเชียวแหละ แต่เบื้องต้นหมวยแนะนำว่าอย่าพยายามขยับแผ่นมาร์กบ่อย เพราะเวลาโปะลงไปมันจะยึดเกาะหน้า อารมณ์แบบแนบเนื้อเลยทันที ดังนั้นเวลาจะขยับมันก็จะหยึ๋ย ๆ ลื่นมือหน่อย พอมาร์กหน้าผ่านไปประมาณ 10 นาที รู้สึกว่าหน้าตึงเลยจ้า อาจเป็นเพราะแผ่นมาร์กมันแนบหน้า และกำลังซึมซาบความสวยเข้าสู่ผิวอยู่แน่ ๆ เลย หมวยมั่นใจ 555 ^^


-และนี่ก็คือ แผ่นมาร์กหน้าที่เราเพิ่งใช้ไป-


ความรู้สึกหลังใช้

หมวยชอบนะ เพราะหลังจากใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าตึงกระชับเนียนนุ่มขึ้นจริง ๆ แถมยังช่วยทำให้หน้าขาวใสขึ้นอีกด้วยนะอันนี้คอนเฟิร์ม หมวยขอให้คะแนน 8.5 / 10 ไปเลยจ้า 

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

รีวิว ผู้ชายก็ร้อยไหมได้! หน้าเรียวสไตล์โอปป้า เห็นผลชัดตั้งแต่ครั้งแรกเลย

สวัสดีจ้าทุกคน! กระแสเทรนด์ฮิตของช่วงนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ การร้อยไหม ซึ่งหมวยเห็นว่ามัน เด็ดจริงอะไรจริงเลยขอหยิบมาเม้ามอยท์และรีวิวให้เพื่อน ๆ ดูกันซะหน่อย คราวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพี่ชายที่เคารพรักของหมวยเองจ้า เดี๋ยวให้ดูหน้าหล่อ ๆ ของนางกันก่อน ^^


พี่ชายของหมวยคนนี้ชื่อ “จีนค่ะ นางอายุ 30+แล้ว ที่สำคัญโสดด้วยจ้า (ขอโปรโมทพี่ชายตัวเองซะหน่อย 555) นางเม้าท์ว่านางไปร้อยไหมมาค่ะในความคิดหมวยว่านางเป็นคนหน้าเล็กและหน้ารูปไข่อยู่แล้วแกจะไปร้อยทำไมวะ (อิหมวยถามนาง!) นางก็เลยหยิบรูปก่อนที่นางจะไปร้อยไหมเทียบให้ดู


(รูปก่อนร้อยไหม)

นางบอก อิหมวยแกไม่สังเกตช้านเลยนะเวลาถ่ายรูป ทำไมถึงต้องเอียง 45 องศา เออว่ะ! ก็จริงของนาง หมวยตามรูปในไอจีของนางมาโดยตลอด นางเอียงแต่มุมนี้จริง ๆ 555 เพราะนางรู้มุมตัวเองว่า 45 องศาของนางคือมุมเด็ด แต่หน้าตรงทีนี่ตายเลยอ่ะเพราะหน้าบานมาก นางบอกว่าถึงแม้นางจะหน้ารูปไข่แต่รูปในพาสสปอร์ตกับบัตรประชาชน นี่พีคมาก T.T มีทั้งริ้วรอยและแก้มห้อย นี่แหละคือเหตุผลที่นางตัดสินใจไปร้อยไหม นางก็ไม่รีรอรีบเม้าท์ต่อว่า ตอนแรกชั้นก็กลัวการร้อยไหมแต่พอร้อยแล้วติดใจว่ะ เพราะผลลัพธ์แม่งชัดโคตร นี่ก็เลยเข้าเรื่องให้นางเล่าถึงประสบการณ์การร้อยไหมครั้งนี้ให้ฟังหน่อย นางก็จ้อไม่หยุดเลยจ้า 


ขั้นตอนแรกของการร้อยไหมก็คือ การถ่ายรูป (พี่จีนนางหัวเราะยาวววววววว) นางบอกว่าก็เอาไว้เปรียบเทียบก่อนหลังไง จะได้รู้ว่าได้ผลและจะกลับมาใช้บริการต่อรึเปล่า 555 พอถ่ายรูปเสร็จคุณหมอก็ทำความสะอาดหน้าให้ และมาร์คยาชาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มขั้นตอนการร้อยไหมค่ะ


การร้อยไหมในครั้งนี้คุณหมอใช้ไหม Tesslift Soft จากประเทศเกาหลีค่ะ คือพี่จีนแกก็เป็นคนขี้กลัวมากก่อนจะร้อยแกก็จะถามข้อมูลคุณหมอแน่นเลย (หมวยแนะนำเลยค่ะถ้าใครที่สนใจจะร้อยไหมให้ดูพี่จีนเป็นตัวอย่าง เพราะนางศึกษาข้อมูล และปรึกษาคุณหมอที่คลินิกก่อนทำอย่างละเอียดมาก จะร้อยทั้งทีต้องมั่นใจและปลอดภัยนะคะ) ความพิเศษของไหมที่คลินิกนี้ก็คือ เป็นไหมเงี่ยงชนิดละลายค่ะ มีประสิทธิภาพในการยกกระชับมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า เพราะมีตาข่ายพันรอบเส้นไหมแบบ 360 องศา ทีเด็ดของที่นี่เลยขอบอก เพราะว่าพี่จีนนางเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนไปร้อยไหมมาเหมือนกัน แต่ร้อยมาแล้วไม่เห็นผลแต่ของพี่จีนนี่ยกแบบเห็นชัดเลย (เดี๋ยวลองดูรูปหลังทำเทียบกันดูแล้วจะรู้ว่าหมวยไม่ได้โม้!)


มาเล่าถึงขั้นตอนการร้อยไหมบ้างดีกว่า ก่อนอื่นคุณหมอก็จะมาร์คจุดที่จะทำการร้อยไหมให้ อ่อ!ลืมบอก คุณหมอจะร้อยไหมข้างละ 5 เส้นให้พี่จีนนะคะ ซึ่งเคสพี่จีนคุณหมอบอกว่าแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หน้ายกกระชับแล้วค่ะ ลำดับต่อมาคุณหมอก็จะฉีดยาชาและเริ่มทำการร้อยไหมค่ะ 


มาถึงสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ ร้อยไหมมันเจ็บมะ ? ตอบได้ตรงนี้เลยว่าไม่เจ็บ แต่มันรู้สึกเสียว ๆ เวลาโดนตึง ๆ ยก ๆ หน้าให้มันกระชับ แต่อยู่ในระดับทนได้ค่ะ อีกอย่างที่มันไม่เจ็บมากเพราะเข็มที่คุณหมอใช้ร้อยเป็นเข็มปลายมนด้วยแหละพี่จีนบอก มันจะไม่เหมือนกับเข็มที่ใช้ร้อยไหมทั่ว ๆ ไปที่มันคม ๆ แบบนั้นยิ่งทำให้เขียวช้ำได้


ใช้เวลาไม่ถึง 40 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยตามภาพบนเลยจ้า พี่พยาบาลยัง WOW เลยชมว่าหน้าเรียวขึ้นเยอะ พี่จีนบอกวินาทีนั้นตื่นเต้นมากรีบหยิบกระจกมาส่องเลยจ้า กริ๊ดดดดดดดประทับใจมากคร่า นี่ขนาดยังบวม ๆ อยู่นะ แต่หลังจากร้อยไหมเสร็จพี่จีนบอกรู้สึกได้เลยว่าหน้ามันเรียวกระชับขึ้นจริง ๆ ที่สำคัญหมอบอกว่าผลลัพธ์นี้อยู่ได้เป็นปี ๆ เลยนะจ๊ะ 

มาดูรูปพี่จีนหลังการร้อยไหมกันดีกว่าหมวยรวบรวมมาให้ แล้วจะรู้ว่ามันเวิร์คมากหน้าเด็กลงเชียวแหละ


(รูปหลังร้อยไหม 1 วัน)


(หลังร้อยไหม 2 อาทิตย์)


(หลังร้อยไหม 1 เดือน)


(รูปปัจจุบัน)

หลังจากที่ได้อัพเดทกับพี่จีนมาล่าสุด ขอเม้าท์นางทิ้งท้ายหน่อยเถอะ ลำไยมาก!!! นางขี้อวดและขี้เห่อหน้าใหม่ของตัวเองมาก นางบอกว่าขนาดผ่านมาแล้วเกือบ 2 เดือน หน้ายิ่ง Lift และเรียวมาก ตอนนี้ไม่ต้องพึ่งมุม 45 องศาในการถ่ายรูปแล้วจ้าเพราะหน้าตรงสู้ได้แล้ว ยิ่งเวลาตื่นนอนก็ต้องหยิบกระจกมาส่องซ้ายทีขวาที ดูหน้า V Shape ของตัวเอง (ฟังแบบนี้คิดว่าหมวยหมั่นไส้มะคะ 5555) ถ้าใครมีปัญหาหน้าหย่อนคล้อยแก้มห้อยเหมือนพี่จีน หมวยแนะนำวิธีร้อยไหมให้เป็นตัวเลือกในการยกกระชับเลยค่ะ รับรองจะติดใจ ^^ ไว้ครั้งหน้าหมวยจะมาเม้ามอยท์รีวิวเรื่องอะไรอีกนั้น ต้องรอติดตามกันใหม่นะจ๊ะ บ๊ายบายคร่า...

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

Mesoestetic Cleansing Wipe แผ่นทำความสะอาดผิวหน้าที่บำรุงหน้า!!!!!


หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า คลีนซิ่งวิป “Cleansing Wipe” มันก็คือแผ่นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า มีลักษณะเหมือนทิชชูเปียก หรือ Baby wipe ทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่มีส่วนประกอบเป็นตัวทำความสะอาดผิวและเครื่องสำอาง (ถ้าเป็น Baby wipe ส่วนประกอบจะเป็นน้ำ และผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื่นและป้องกันการระคายเคืองค่ะ)

วันนี้เจ้ไปเจอ Cleansing Wipe ที่เด็ดจริง เจ้ใช้แล้วปลื้มมาก จนต้องมารีวิวเลย ใช้แล้วสดชื่นสุดๆ นอกจากจำทำความสะอาดผิวหน้าแล้วยังบำรุงผิวหน้าไปในตัวด้วย



          ท๊าดาาา...นั่นคือ Mesoestetic  Pre-Procedure Cleansing Wipe แผนทำความสะอาดผิวหน้า ที่นอกจากจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วสิ่งสกปรกที่ใบหน้าแล้ว ยังมีสาระสำคัญคือไกลโคลิกและแลคติค ที่กระตุ้นเซลล์ยังฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดการอักเสบต้านการระคายเคืองผิว และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอย ป้องกันการคายน้ำในผิวหนัง ให้ผิวใสและชุ่มชื่นอิ่มน้ำอีกด้วยด้วย



1 กล่อง มี 20 ซอง


มาลองกันเล้ยยยยยยย

แกะซองออกมาแผ่นเช็ดหน้าใหญ่กว่าหน้าอีก แต่พับเป็นสีเหลี่ยมเปียกชุ่มมาก มีกลิ่นเหมือนยาเลย (ก็ใช่นะสิ มันคือเวชสำอางนี่นา) ใช้Meso Cleansing Wipe เช็ดหน้า ความรู้สึกเราคือมันช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายออกระหว่างเช็ด แต่ก็ไม่ถึงขั้นสครับขัดหน้าอ่ะ ชอบมากเลย พอล้างแล้ว จับดูแล้วรู้สึกหน้าลื่นๆเนียนๆตึง ตึงแบบฉ่ำน้ำนะไม่ได้ตึงแบบแห้ง บอกไม่ถูก รู้แค่ว่ามันรู้สึกดี  ผิวหน้าสะอาด เฟรชสุดๆ  (ถ่ายรูปไฟห้องน้ำกับนอนเฉดสีต่างกันเลย 555)

สวนประกอบสำคัญของ Mesoestetic  Pre-Procedure Cleansing Wipe ที่ทำให้ผิวใสฉ่ำน้ำ
Glycolic Acid - กรดไกลโคลิก สำหรับเร่งการผลัดเซลล์ผิว โดยจะทำหน้าที่ในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวใสโดยจะผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออก โมเลกุลที่มีขนาดเล็ก จึงสามารถซึมสู่ผิวได้ดี ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้ดีกว่า
Lactic Acid - กรดแลกติกจะทําให้เกิดกระบวนการที่ทําให้ผิวหนังชั้นบนสุดหลุดออก และทําให้ผิวชั้นต่อไปปรากฏขึ้นมาแทนผิวเดิม ซึ่งกระบวนการนี้ทําให้จุดด่างดําจางลง รอยเหี่ยวย่นตื้นขึ้น และรอยไหม้จากแสงแดดหลุดลอกออกไป ช่วยให้ผิวขาวใสขึ้น จากการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ากรดแลกติกเป็นตัวที่ทําให้อัตราการเกิดเซลล์ใหม่ของผิวได้สูงกว่า และเกิดการระคายเคืองต่อผิวน้อยที่สุด  กรดแลกติกยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว เปรียบเสมือนเป็นกําแพงปกป้องเพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำด้วย
Salicylic Acid  - หรือที่เราเคยได้ยินคือ BHA ใช้รักษาโรคผิวหนังที่มีผื่นหนา เป็นขุย เพื่อลดเลือนริ้วรอย และรักษาสิว BHA จะไปทำให้ Keratin ที่แข็งนุ่มลง ทำให้ผิวที่แห้งเป็นขุยหลุดออกง่าย และลดการอักเสบในสิว BHA ช่วยให้การหลุดลอกของเซลล์เยื่อบุในรูขุมขนช้าลง ป้องกันการอุดตัน และช่วย สลายสิวอุดตันทั้ง รวมทั้งลดการอักเสบของสิวอักเสบในคนผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
Lactobionic Acid - คือตัวเดียวกันกับ PHAพัฒนามาจากสารสกัดจาก AHA มีคุณสมบัติเหมือนกับ AHA แต่มีความพิเศษอยู่ตรงที่ มีความอ่อนโยนกว่าและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti-Oxidant) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของมลภาวะ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว  ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวจะต้องซึมลงไปให้ก่อความระคายเคืองกับชั้นผิวอื่นๆ 
Alpha-bisabolol - เป็นสารสกัดดอกคาโมไมล์ (Chamomile Extract) พบสารอัลฟ่าไบซาโบลอล (Alpha Bisabolol) ทำหน้าที่เป็นสารต้านการอักเสบ (Anti-Inflammation) ช่วยปรับสมดุลผิว ป้องกันการระคายเคือง ลดการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผิวไม่ระคายเคือง ไม่แพ้ง่าย
และสุดท้าย Mesoestetic  Pre-Procedure Cleansing Wipe ไม่มีน้ำหอม มีค่า pH  4.5 ที่พอดีกับผิว (ค่าpH ที่ใช้กับผิวหน้าอยู่ที่ 4-7)
>>> เผื่อใครที่สนใจก็ลองไปดูที่เพจ Mesoestetic  Thailand ได้จ้า จะได้สวยเหมือนเจ้ อิอิ




วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

Review “ร้อยไหม”หน้าเรียวเว่อร์ เคล็บลับของสาวจ๊ะเอ๋ ผู้คร่ำหวอดในวงการความงาม



นางฟ้าหน้าเฟสตัวจริงเปรตหน้าวัด” เป็นคำเปรยเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างอิหมวยและพี่จ๊ะเอ๋ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน พี่จ๊ะเอ๋นางเป็นพี่สาวผู้คร่ำหวอดในวงการความงาม เพราะนางทำงานเป็นผู้จัดการคลินิกเสริมความงามมาหลายปีแล้ว จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกันคือ คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านเอกมัย นางเทคแคร์และบริการดีมากเลยทำให้หมวยประทับใจ และสนิทกันนางเรื่อยมา พี่จ๊ะเอ๋นางเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองโดยเฉพาะเรื่องความสวยนางชอบบอกว่าในเฟสบุคนางอ่ะสวยเหมือนนางฟ้า แต่พอเจอตัวจริง สะพรึงแน่!! อิหมวยก็แบบให้กำลังใจเสมอมาว่า นางสวย นางสวยอยู่ อย่าคิดมาก 

เมื่อเดือนที่ผ่านมา นางโทรมาอวดว่านางไปร้อยไหมที่เกาหลีมาจ้า จริง ๆ เราก็รู้นะว่านางเป็นคนขี้กลัว เห็นทำงานอยู่คลินิกเสริมความงามแบบนี้แต่นางไม่ใช่เจ้าแม่ศัลยกรรมเลย อย่างมากก็ฉีดโบ ทำเลเซอร์ ทำ  ทรีตเม้นท์ มาคราวนี้ร้อยไหม เออเด็ดว่ะ! (หมวยอุทานไป) แกบอกว่าที่ตัดสินใจร้อยไหมเพราะนางอายุใกล้จะหลักสี่แล้ว หน้าก็เริ่มหย่อนคล้อยแก้มห้อยด้วยเลยต้องหาตัวช่วย อย่างว่านางทำงานด้านนี้มานานเลยมีเพื่อนวงในเยอะ ล่าสุดเพื่อนแนะนำให้ไปร้อยไหมที่เกาหลีดู เพราะบ้านเค้าเด่นเรื่องศัลยกรรมความงามอยู่แล้ว และมีคลินิกที่นั่นเค้าโปรโมทว่าไหมที่ใช้ร้อยสามารถยกกระชับหน้าได้ดีกว่าไหมรุ่นอื่น ๆ ถึง 10 เท่า ! หมวยเลยถามมาว่าใช้ไหมยี่ห้ออะไร มันดีงามขนาดนั้นเลยรึ ?


ได้ความว่าไหมตัวนี้มีชื่อว่า Tesslift Soft ค่ะ เป็นไหมเงี่ยงละลาย โดยความพิเศษของไหมอยู่ที่มีตาข่ายพันรอบไหมแบบ 360 องศา ช่วยยึดเกาะและพยุงผิวได้ดีโคตร แบบถ้าพูดเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ใช้ไหมในการร้อยน้อยไม่ต้องเจ็บตัวเยอะแต่ได้ประสิทธิภาพสูง พอหมวยฟังแบบนี้ก็อดใจไม่ไหวถ้ามันเด็ดจริงขอรีวิวเลยได้ป่ะล่ะ นางก็โอเคยินดีส่งรูปมาให้เพียบ ไอเราเห็นก็อึ้งสิจ๊ะเพราะหน้าพี่จ๊ะเอ๋เรียวขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลย งั้นไม่รอช้าหมวยขอเริ่มเล่าให้ฟังเลยละกัน


ขั้นตอนของการร้อยไหมก็คือ คุณหมอจะเริ่มคลีนหน้าให้ก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ พอเสร็จก็มาร์คยาชา หลังจากนั้นคุณหมอก็จะวางตำแหน่งร้อยไหมในครั้งนี้ให้ สังเกตได้จากรอยขีด ๆ เขียน ๆ ที่หน้านาง (พี่จ๊ะเอ๋บอกว่า ช้านยอมพลีชีพให้เห็นรูปหน้าสดก็เพื่อแกเลยนะหมวย 5555) 


ต่อมาก็คือ การฉีดยาชา ฉีดเสร็จปุ๊ปก็ออกฤทธิ์ปั๊ป คุณหมอวางไว้ว่าจะร้อยไหมข้างละ 5 เส้นให้ค่ะ เพราะพี่จ๊ะเอ๋มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อยเยอะอยู่ ร้อยข้างละ 5 เส้นนี่ก็เพียงพอแล้วค่ะ นางบอกว่าตอนร้อยไม่รู้สึกเจ็บเลย คงเพราะด้วยฤทธิ์ยาชา และเข็มที่ใช้ร้อยมันเป็นเข็มปลายมน (Full Blunt) ทำให้หมอใช้งานง่าย และลดการบวมเขียวช้ำในขณะร้อยไหมด้วย นางยังฝากบอกสาว ๆ บิวตี้กูรู้มาด้วยว่า ไม่ต้องกลัวเจ็บนะถึงแม้ว่าการร้อยไหมมันอาจจะดูน่ากลัวแต่ไม่เจ็บเลยจริงๆ แค่รู้สึกตึง ๆ รั้ง ๆ หน้าเฉย ๆ เวลาร้อยเท่านั้นเองค่า ใช้เวลาไม่นานคุณหมอก็ร้อยข้างขวาเสร็จเรียบร้อย ดูรูปสิจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยจ้า


ความดีงามในการร้อยไหมครั้งนี้ก็คือ เทคนิคของคุณหมอที่ไม่ใช้การตัดไหมที่เหลือทิ้งในขั้นตอนสุดท้าย แต่จะนำไหมที่โผล่ออกมาร้อยกลับเข้าไปให้เป็นปมตัว U เพื่อยึดและล็อคไหมอีกชั้น ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เลิฟคุณหมอตรงนี้แหละคร่า นางบอก

คุณหมอใช้เวลาร้อยไหมข้างที่เหลืออีกแค่แป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง หน้าเราก็ยกกระชับเรียวสวยแล้วจ้า ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมหลายคนอาจจะมองว่ายุ่งยาก แต่จริง ๆ ไม่เลยนะ ก็แค่ช่วง 3 วันแรกงดล้างหน้าก่อน และในสัปดาห์แรกก็อย่าเพิ่งดื่มแอลกอฮอล์ เว้นการออกกำลังกายหนัก ๆ และงดการทำหน้าทุกชนิดไว้ก่อน ความหน้าเรียวนี้พี่จ๊ะเอ๋ได้มาด้วยงบหลักหมื่น (ไม่รวมค่ากินเที่ยวที่เกาหลีต่อนะ 555) แต่หลักหมื่นที่นางเสียไปอยู่ได้นานถึง 2 ปีเชียวนะ ถามว่าคุ้มไหม เรียกว่าโคตรคุ้มเลยดีกว่า!!! ถ้าใครสนใจแนะนำให้ไปตามรอยนางได้นะ เพราะหมวยเห็นรูปผลลัพธ์ยังว้าวเลย (เลื่อนลงไปดูรูปนะแล้วจะรู้ว่าว้าวยังไงคร่า !)



วันแรกที่ร้อยไหมเสร็จ หน้าอาจจะยังดูหน้าบวม ๆ อยู่ แต่หลังจากนั้น 2 สัปดาห์จะเป็นช่วงที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเยอะขึ้น จนที่เห็นผลชัดเจนที่สุดก็คือ 1 เดือน หน้าตึงกระชับขึ้นมากจริงๆ ปรบมือให้เลยค่ะ!! 



และนี่คือรูปปัจจุบันของนางที่เพิ่งส่งมาให้ดูไม่กี่วันนี้ #อิจฉาในความหน้าเรียวของนางมาก

ไว้เดี๋ยวครั้งหน้าหมวยจะหาคนแซ่บ ๆ มารีวิวให้ลูกเพจ บิวตี้ กูรู้ดูกันอีก และจะเป็นการรีวิวทำสวยอะไรอีกนั้น ต้องติดตามรอดูกันใหม่น้า สำหรับวันนี้หมวยไปแล้วเน้อ บ๊าย บาย คร่า!!

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561

รีวิวร้อยไหมล่าสุดจากเกาหลี Tesslift Soft !! หน้าเรียวจริงไม่ต้องบินไปถึงกรุงโซล


สวัสดีสาวๆบิวตี้กูรู้ วันนี้เจ้จะมาแชร์ความสวยเรื่องการร้อยไหม เคทนี้เป็นเพื่อนชะนีของเจ้เองมันเริ่ดมา เจ้เลยอยากแชร์จ้า  มาดูกันเลยว่ามันดีอย่างที่เจ้โม้มั้ย...


สวัสดีค่ะ วันนี้ปิ่นจะมารีวิวร้อยไหมเงี่ยงจากประเทศเกาหลีค่ะ นั่นก็คือไหมTesslift Soft ค่าปกติเรารู้กันดีอยู่ว่าไหมเงี่ยงทำหน้าที่ยกบริเวณที่ร้อย แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าของไหม Tesslift Soft คือส่วนของไหมตาข่ายที่พันรอบไหมเงี่ยง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและยกผิวได้ดีกว่าไหมแบบอื่นๆถึง10 เท่าแล้ว ยังทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยกระชับและคงผลได้ยาวนาน 2-3 ปี อีกด้วยจ้า

         อ้อลืมบอก ปิ่นอายุ 31แล้วค่ะ จะเห็นว่าหน้าปิ่นหย่อนคล้อย ผิวดูล้าและโทรมมาก เลยอยากจะร้อยไหมให้หน้าเรียวยกกระชับค่ะ (ปิ่นถ่ายรูปก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบค่ะ) 


             มาเริ่มกันที่ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนจ้า จากนั้นก็ฉีดยาชา ระหว่างรอให้ยาชาทำงาน คุณหมอก็มาร์กจุดให้เห็นไปเลยว่าจะร้อยไหมไปในทิศทางไหน

  
ขวามือคือข้างที่ร้อยเสร็จแล้วค่ะ คือมันเห็นชัดเจนมาอ่ะ ว่าข้างที่ทำกับไม่ทำมันต่างกันแต่ไหน ข้างที่ทำคือหน้าวี ยกกระชับขึ้นมาก  ยกสูงถึงหางตาเลยมีเดียว ปิ่นเลิฟมว๊ากกกกกกกกกก

ใช้ไหมข้างละ 5 เส้นค่ะ แต่แผลมีแค่  3 จุด เล็กๆเอง ทั้งที่ไหมยาวกว่าไหมทั่วไปมากๆ แต่คุณหมอก็เก็บหมดจริงๆ ไม่ช้ำเขียวด้วย


จากนั้นก็ทำข้างซ้ายต่อค่ะพอร้อยเสร็จคุณหมอมีเทคนิคนวดเฉพาะ เพื่อให้หน้ายกกระชับมากขึ้นค่ะ

 หลังทำเสร็จค่ะ แผลเล็กมากเหมือนแป๊ะสิว ไปทำงานต่อได้เลย


เปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำค่ะ ต่างกันสุดๆคุณหมอบอกอีก 1 เดือนหน้าจะเข้าที่ดูเรียวกระชับขึ้นกว่านี้จ้า (นี่ขนาดทำเสร็จทันทียังเรียวขนาดนี้ แล้วถ้าอีก 1 เดือนจะเป๊ะขนาดไหนเนี่ย )

Tesslift Soft เป็นไหมละลายที่ยาวกว่ายี่ห้ออื่นๆที่ปินเคยเห็นมาเลย อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าการร้อยไหมแบบทั่วไปนั้น เค้าจะใช้วิธีการตัดไหมที่เหลือในขั้นตอนสุดท้าย แต่ที่ไม่เหมือนใครคือ Tesslift Softไม่ต้องตัดค่ะ  จะใช้วิธีนำไหมที่เหลือนั้นมาร้อยกลับอีกทีให้เป็นปมรูปตัวU สร้างการยึดเกาะ และล็อคไม่ให้ไหมเลื่อนอีกชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการร้อยไหม ซึ่งเทคนิคนี้เรียกว่า ZIG – ZAG Techniqueจ้า โอ้ยยยย ล้ำไปอ๊กกกกกกก


ครบเดือนแล้วค่ะ สวยเป๊ะมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็หน้าเรียวสวย เหนียงก็หายไปด้วย ปิ่นชอบมากกกกกก



คราวหน้าถ้าปิ่นไปทำสวยอีก จะมารีวิวใหม่จ้า วันนี้ไปแระ บายยยย

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

[Review] ใหม่! เอสเซนส์ฟื้นฟูผิวหน้าให้ใสเด้งแบบเร่งด่วน แบรนด์ดังจากสเปน ดีเว่อร์ !!!




             เพราะโลกไม่หยุดหมุน หมวยก็จะไม่หยุดสรรหาเคล็ดลับความสวยมาฝากสาว ๆ กันอีกเช่นเคย โดยเฉพาะสาวไทยคนไหนที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ ไม่กล้าศัลยกรรม ต้องฟังทางนี้เลย!

เคล็ดลับที่ว่านี้ก็คือ antiaging flash ampoules นวัตกรรมดูแลผิวหน้าเพื่อการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน!!! ใหม่ล่าสุดจาก mesoestetic แบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศสเปน แบรนด์นี้เค้าโด่งดังมากนะเรื่อง เมโสหน้าใส เมโสแฟต แต่วันนี้เค้าออกผลิตภัณฑ์เป็นเอสเซนส์ชนิดทาบำรุงผิว เพื่อเอาใจสาว ๆ ที่กลัวเจ็บ โดยสูตรนี้เป็นเอสเซนส์ฟื้นฟูผิวสูตรเข้มข้นระดับพรีเมี่ยม ขอบอกเลยนะว่าเนื้อเอสเซนส์มีประสิทธิภาพในการซึมเข้าสู่ผิวเร็วและง่ายมากกว่าเนื้อเซรั่มทั่วไปอีกนะจ๊ะ เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และที่สำคัญ antiaging flash ampoules ราคาสบายกระเป๋า ดีไม่ดีคิดดู๊!!! คุณแม่มาดอนน่าก็ยังใช้เลยคร่า


คุณแม่มาดอนน่าก็นิยมชมชอบในแบรนด์ mesoestetic นะจ๊ะ



ด้านหน้า และด้านหลังของกล่อง antiaging flash ampoules



ข้อดีของ antiaging flash ampoules 



ช่วยดูแลฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน!!! ช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับผิว ทำให้หน้าใสเด้ง ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี แถมยังไม่ต้องกังวลว่าผิวหน้าแบบฉันจะใช้ได้ไหมน้า ? เพราะเหมาะกับทุกสภาพผิว ทาได้ทั้งใบหน้าและลำคอ เหมาะมากกับคนที่ต้องการให้ผิวใสเด้งแบบต้องใช้หน้าด่วน ต้องสวยด่วน ก่อนออกเดท หรือก่อนไปงานสำคัญ มีความปลอดภัยสูง เพราะผ่านการรับรองจากสถาบันชื่อดังระดับโลก รวมถึง อย. ของบ้านเราแล้วด้วยจ้า 


ส่วนผสมหลักของ antiaging flash ampoules


1. Plant tensor: สารสกัดจากพืช ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น และมีฤทธิ์ต้านริ้วรอยได้ทันที
2. Collagen: ช่วยยกกระชับผิว และต่อต้านริ้วรอยของสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี
3. Elastin: ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ลดเลือนริ้วรอย ชะลอความแก่ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
4. Vitamin C: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสเด้งยิ่งขึ้น
5. Mimosa tenuiflora: สารสกัดจากต้นไมยราบ ที่ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิว ให้กลับมาแข็งแรง

วิธีใช้ antiaging flash ampoules



ในกล่องจะมีทั้งหมด 10 ขวดนะจ๊ะ ขวดนึงมี 2ml. ลักษณะเป็นขวดแก้วก็จริงแต่ใช้งานง่ายมาก เพราะข้างในจะมีที่เปิดฝาขวดเป็นพลาสติกมาให้ด้วย แค่กดลงไปที่ฝาแล้วออกแรงหักนิดเดียว ฝาขวดก็เปิดพร้อมใช้งานแล้วจ้า^^

ความรู้สึกหลังจากลองใช้ antiaging flash ampoules


หมวยลองเทออกมา ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความเข้มข้นของตัวเอสเซนส์ฟื้นฟูผิวนี้ จะมีสีเหลืองขุ่น ๆ หน่อย ไม่มีกลิ่น ตอนแรกคิดว่าถ้าเอามาทาหน้า ช้านจะต้องหน้ามันเยิ้มแน่ๆเลยเนี๊ย แต่ไม่เลยจ๊ะ! กลับซึมเข้าสู่ผิวหน้าไวมาก วิธีทาก็แค่ ทา ๆ นวด ๆ ให้ทั่วใบหน้า หน้าก็จะดูวิ๊งฉ่ำวาว เนียนใสกิ๊กเลยจ้า แต่ถ้าใครจะต้องแต่งหน้า หมวยขอแนะนำเลยค่ะ ให้ทา antiaging flash ampoules ก่อนแล้วค่อยตบแป้ง เพราะจะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดง่าย และอยู่ได้นาน หมวยลองมาแล้วขอบอกว่าเริ่ด !



หมวยว่าจริง ๆ ขวดนึงใช้ได้ถึง 2 ครั้งนะ ถ้าใช้ไม่หมดก็แช่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้อีก 2 – 3 วัน แต่ต้องหาอะไรปิดที่สะอาดและมิดชิดนะ แต่จะใช้หมดเลยในครั้งเดียวก็ได้ อาทิตย์นึงทาแค่ 1 – 2 ครั้งก็พอเพราะมันเปลือง อันนี้จากความรู้สึกส่วนตัวนะ 5555 ส่วนผสมของนางมันเข้มข้นมากอยู่แล้วไงใช้ครั้งเดียวหน้าก็เด้งเป็นอาทิตย์แล้ว พูดจริง!! ที่สำคัญต้องเก็บขวด antiaging flash ampoules ให้ห่างแสงนะสำคัญมาก! ไม่อย่างนั้นประสิทธิภาพมันจะลดลง

คุณสมบัติดีงามครบทุกการดูแลผิวขนาดนี้ ลองเถอะรับรองไม่ผิดหวัง หนังหน้าของอิหมวยที่ว่าแย่ ยังกลับมาสดใสฉ่ำวาวได้อีกครั้ง คอนเฟิร์ม! ที่สำคัญถ้าใครสนใจตอนนี้ไม่ต้องบินไปซื้อไกลถึงสเปนแล้วจ๊ะ มีขายที่ไทยแล้ว ถ้าใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ 
https://www.facebook.com/mesoestetic.th/ เพราะหมวยก็ซื้อจากที่นี่แหละ ไว้โอกาสหน้าหมวยจะมารีวิวอะไรให้ดูกันอีก ปูเสื่อรอได้เลยจ้า^^