“นางฟ้าหน้าเฟสตัวจริงเปรตหน้าวัด” เป็นคำเปรยเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างอิหมวยและพี่จ๊ะเอ๋
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน พี่จ๊ะเอ๋นางเป็นพี่สาวผู้คร่ำหวอดในวงการความงาม เพราะนางทำงานเป็นผู้จัดการคลินิกเสริมความงามมาหลายปีแล้ว
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกันคือ คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านเอกมัย นางเทคแคร์และบริการดีมากเลยทำให้หมวยประทับใจ และสนิทกันนางเรื่อยมา พี่จ๊ะเอ๋นางเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองโดยเฉพาะเรื่องความสวยนางชอบบอกว่าในเฟสบุคนางอ่ะสวยเหมือนนางฟ้า แต่พอเจอตัวจริง สะพรึงแน่!! อิหมวยก็แบบให้กำลังใจเสมอมาว่า นางสวย นางสวยอยู่ อย่าคิดมาก
เมื่อเดือนที่ผ่านมา นางโทรมาอวดว่านางไปร้อยไหมที่เกาหลีมาจ้า จริง ๆ เราก็รู้นะว่านางเป็นคนขี้กลัว เห็นทำงานอยู่คลินิกเสริมความงามแบบนี้แต่นางไม่ใช่เจ้าแม่ศัลยกรรมเลย
อย่างมากก็ฉีดโบ ทำเลเซอร์ ทำ ทรีตเม้นท์
มาคราวนี้ร้อยไหม เออเด็ดว่ะ! (หมวยอุทานไป) แกบอกว่าที่ตัดสินใจร้อยไหมเพราะนางอายุใกล้จะหลักสี่แล้ว
หน้าก็เริ่มหย่อนคล้อยแก้มห้อยด้วยเลยต้องหาตัวช่วย อย่างว่านางทำงานด้านนี้มานานเลยมีเพื่อนวงในเยอะ
ล่าสุดเพื่อนแนะนำให้ไปร้อยไหมที่เกาหลีดู
เพราะบ้านเค้าเด่นเรื่องศัลยกรรมความงามอยู่แล้ว และมีคลินิกที่นั่นเค้าโปรโมทว่าไหมที่ใช้ร้อยสามารถยกกระชับหน้าได้ดีกว่าไหมรุ่นอื่น
ๆ ถึง 10 เท่า ! หมวยเลยถามมาว่าใช้ไหมยี่ห้ออะไร มันดีงามขนาดนั้นเลยรึ ?
ได้ความว่าไหมตัวนี้มีชื่อว่า Tesslift Soft ค่ะ เป็นไหมเงี่ยงละลาย
โดยความพิเศษของไหมอยู่ที่มีตาข่ายพันรอบไหมแบบ 360
องศา ช่วยยึดเกาะและพยุงผิวได้ดีโคตร
แบบถ้าพูดเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ใช้ไหมในการร้อยน้อยไม่ต้องเจ็บตัวเยอะแต่ได้ประสิทธิภาพสูง พอหมวยฟังแบบนี้ก็อดใจไม่ไหวถ้ามันเด็ดจริงขอรีวิวเลยได้ป่ะล่ะ
นางก็โอเคยินดีส่งรูปมาให้เพียบ ไอเราเห็นก็อึ้งสิจ๊ะเพราะหน้าพี่จ๊ะเอ๋เรียวขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลย
งั้นไม่รอช้าหมวยขอเริ่มเล่าให้ฟังเลยละกัน
ขั้นตอนของการร้อยไหมก็คือ
คุณหมอจะเริ่มคลีนหน้าให้ก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ พอเสร็จก็มาร์คยาชา
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะวางตำแหน่งร้อยไหมในครั้งนี้ให้ สังเกตได้จากรอยขีด ๆ เขียน
ๆ ที่หน้านาง (พี่จ๊ะเอ๋บอกว่า
ช้านยอมพลีชีพให้เห็นรูปหน้าสดก็เพื่อแกเลยนะหมวย 5555)
ต่อมาก็คือ
การฉีดยาชา ฉีดเสร็จปุ๊ปก็ออกฤทธิ์ปั๊ป คุณหมอวางไว้ว่าจะร้อยไหมข้างละ 5 เส้นให้ค่ะ
เพราะพี่จ๊ะเอ๋มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อยเยอะอยู่ ร้อยข้างละ 5 เส้นนี่ก็เพียงพอแล้วค่ะ
นางบอกว่าตอนร้อยไม่รู้สึกเจ็บเลย คงเพราะด้วยฤทธิ์ยาชา และเข็มที่ใช้ร้อยมันเป็นเข็มปลายมน
(Full Blunt) ทำให้หมอใช้งานง่าย และลดการบวมเขียวช้ำในขณะร้อยไหมด้วย
นางยังฝากบอกสาว ๆ บิวตี้กูรู้มาด้วยว่า ไม่ต้องกลัวเจ็บนะถึงแม้ว่าการร้อยไหมมันอาจจะดูน่ากลัวแต่ไม่เจ็บเลยจริงๆ
แค่รู้สึกตึง ๆ รั้ง ๆ หน้าเฉย ๆ เวลาร้อยเท่านั้นเองค่า ใช้เวลาไม่นานคุณหมอก็ร้อยข้างขวาเสร็จเรียบร้อย
ดูรูปสิจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยจ้า
ความดีงามในการร้อยไหมครั้งนี้ก็คือ
เทคนิคของคุณหมอที่ไม่ใช้การตัดไหมที่เหลือทิ้งในขั้นตอนสุดท้าย
แต่จะนำไหมที่โผล่ออกมาร้อยกลับเข้าไปให้เป็นปมตัว
U เพื่อยึดและล็อคไหมอีกชั้น
ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด “เลิฟคุณหมอตรงนี้แหละคร่า”
นางบอก
คุณหมอใช้เวลาร้อยไหมข้างที่เหลืออีกแค่แป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อย
ใช้เวลาแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง หน้าเราก็ยกกระชับเรียวสวยแล้วจ้า ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมหลายคนอาจจะมองว่ายุ่งยาก
แต่จริง ๆ ไม่เลยนะ ก็แค่ช่วง 3 วันแรกงดล้างหน้าก่อน และในสัปดาห์แรกก็อย่าเพิ่งดื่มแอลกอฮอล์
เว้นการออกกำลังกายหนัก ๆ และงดการทำหน้าทุกชนิดไว้ก่อน ความหน้าเรียวนี้พี่จ๊ะเอ๋ได้มาด้วยงบหลักหมื่น
(ไม่รวมค่ากินเที่ยวที่เกาหลีต่อนะ 555) แต่หลักหมื่นที่นางเสียไปอยู่ได้นานถึง 2
ปีเชียวนะ ถามว่าคุ้มไหม เรียกว่าโคตรคุ้มเลยดีกว่า!!! ถ้าใครสนใจแนะนำให้ไปตามรอยนางได้นะ เพราะหมวยเห็นรูปผลลัพธ์ยังว้าวเลย
(เลื่อนลงไปดูรูปนะแล้วจะรู้ว่าว้าวยังไงคร่า !)
และนี่คือรูปปัจจุบันของนางที่เพิ่งส่งมาให้ดูไม่กี่วันนี้
#อิจฉาในความหน้าเรียวของนางมาก
ไว้เดี๋ยวครั้งหน้าหมวยจะหาคนแซ่บ ๆ
มารีวิวให้ลูกเพจ “บิวตี้ กูรู้”ดูกันอีก และจะเป็นการรีวิวทำสวยอะไรอีกนั้น ต้องติดตามรอดูกันใหม่น้า
สำหรับวันนี้หมวยไปแล้วเน้อ บ๊าย บาย คร่า!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น